งานเลี้ยงรับรองวันชาติฝรั่งเศส ประจำปี 2567 ที่กรุงเทพฯ [fr]
วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม 2567 นายฌ็อง-โกลด ปวงเบิฟ (Jean-Claude Poimbœuf) เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย จัดงานเลี้ยงรับรองวันชาติฝรั่งเศส ประจำปี 2567 ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพฯ โดยมีนายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ องคมนตรี พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คณะทูตต่างประเทศ ที่ปรึกษาชาวฝรั่งเศสในต่างประเทศประจำประเทศไทย กงสุลกิตติมศักดิ์ฝรั่งเศสประจำประเทศไทย และประธานสมาคมชาวฝรั่งเศสในประเทศไทย มาร่วมงานและร่วมแสดงความยินดี
ภาพ : สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย
ภาพ : สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย
ภาพ : สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย
ภาพ : สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย
โอกาสนี้ นายกิตตินันท์ ชินสำราญ นักร้องเสียงบาริโทนชาวไทย ได้ขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงชาติฝรั่งเศส พร้อมกับการบรรเลงเพลงโดยวงดุริยางค์ทหารอากาศ จากนั้นเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสขึ้นกล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติโดยชื่นชมความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ก่อนเชิญแขกผู้มีเกียรติร่วมดื่มถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และดื่มเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยคำกล่าวของเอกอัครราชทูตฯ มีเนื้อหาดังนี้
กราบเรียน ท่านองคมนตรี
เรียน ท่านรัฐมนตรี
ท่านคณะทูตานุทูต
ที่ปรึกษาชาวฝรั่งเศสในต่างประเทศ
กงสุลกิตติมศักดิ์ฝรั่งเศส
ประธานสมาคมชาวฝรั่งเศส
พี่น้องชาวฝรั่งเศส
และมิตรสหายของประเทศฝรั่งเศสที่เคารพทุกท่าน
ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นทุกท่านให้เกียรติมาร่วมงานเลี้ยงรับรองวันชาติฝรั่งเศสกันอย่างมากมายในวันนี้ ผมขอขอบคุณทุกท่านที่กรุณาตอบรับเชิญมาร่วมงาน การมาร่วมงานของทุกท่านในวันนี้เป็นการแสดงมิตรไมตรี และสะท้อนความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยกับฝรั่งเศส
ปีนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดีของการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเราทั้งสอง เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กิจกรรมปีแห่งนวัตกรรมฝรั่งเศส-ไทย 2023 ที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ จัดขึ้น ได้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี โดยมีกิจกรรมมากมายเกิดขึ้นภายใต้กิจกรรมดังกล่าว ช่วยกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่มีมาอย่างยาวนานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งด้านวัฒนธรรม การวิจัย การอุดมศึกษาและนวัตกรรม
นอกจากนี้ เมื่อเดือนมีนาคม 2567 ฝรั่งเศสได้รับเกียรติต้อนรับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการเป็นประเทศแรกในภูมิภาคยุโรป นายกรัฐมนตรีได้พบหารือกับนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในอนาคต อีก 2 เดือนต่อมา นายกรัฐมนตรีได้เยือนฝรั่งเศสอีกครั้งเพื่อเปิดงาน France-Thailand Business Forum เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ณ กรุงปารีส โดยมีภาคเอกชนชั้นนำของทั้งสองประเทศเข้าร่วมงาน และมีการลงนามความตกลงที่สำคัญหลายฉบับ นายกรัฐมนตรียังได้พบหารือกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งผู้นำทั้งสองยืนยันเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะกระชับความร่วมมือทวิภาคี โดยเฉพาะด้านความมั่นคงและกลาโหม อวกาศ คมนาคมขนส่งและการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานและนิเวศวิทยา จากนั้นไม่กี่สัปดาห์ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางเยือนฝรั่งเศสเพื่อเข้าร่วมงานนิทรรศการด้านการป้องกันประเทศ ยูโรซาทอรี่ 2024 ณ กรุงปารีส
การยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ยังหมายรวมถึงการดำเนินการในประเด็นที่นอกเหนือจากความสัมพันธ์ทวิภาคี ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนวิสัยทัศน์ในประเด็นวิกฤตการณ์ระหว่างประเทศที่สำคัญ ซึ่งผมขอหยิบยกการรุกรานยูเครนของรัสเซียที่เกิดขึ้นมานานแล้วมากกว่า 2 ปีเป็นตัวอย่าง หรือจะเป็นการส่งเสริมความร่วมมือในประเด็นระดับโลกต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน ความหลากหลายทางชีวภาพ มหาสมุทร สุขภาพโลก โดยทั้งสองประเทศกำลังร่วมกันดำเนินการในประเด็นเหล่านี้ ผมมีความยินดีที่ได้เป็นผู้แทนประเทศฝรั่งเศสลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงการเจรจาทวิภาคีว่าด้วยสิ่งแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพและการคุ้มครองชนิดพันธุ์ ระหว่างไทยกับฝรั่งเศส
ผมหวังว่าความร่วมมือที่ก้าวหน้าดังกล่าวจะดำเนินสืบเนื่องต่อไปในอนาคต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการเตรียมการสำหรับการครบรอบ 340 ปี ของการติดต่อกันครั้งแรกระหว่างสยามกับฝรั่งเศสในปี 2568 และการครบรอบ 170 ปี ของความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ฝรั่งเศสในปี 2569 การเตรียมการดังกล่าวจะเป็นการฉลองวาระสำคัญในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์อันยาวนานของทั้งสองประเทศและเป็นการกำหนดทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างกันในอนาคต
ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษที่เคารพ
อีกไม่กี่วัน ฝรั่งเศสจะต้อนรับผู้คนจากทั่วโลกในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ทั้งนี้ ในฐานะประเทศที่เป็นต้นกำเนิดการฟื้นฟูกีฬาโอลิมปิกจากแนวคิดของบารอน ปีแยร์ เดอ กูแบร์แต็ง ฝรั่งเศสได้กลับมาเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนอีกครั้งในรอบ 100 ปี และเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเป็นครั้งแรก โดยฝรั่งเศสได้เตรียมการทุกอย่างเป็นอย่างดีเพื่อให้มหกรรมกีฬาระดับโลกครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ผมขอใช้โอกาสนี้อวยพรให้นักกีฬาไทยประสบความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาทั้ง 2 รายการ
ลำดับต่อมา ผมขออนุญาตกล่าวกับพี่น้องชาวฝรั่งเศสที่ผมอยากเดินทางไปพบปะในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย ที่ทุกท่านอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก จนทำให้ชุมชนฝรั่งเศสในไทยเป็นชุมชนฝรั่งเศสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผมขอชื่นชมการทำงานของผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้งของชาวฝรั่งเศสในต่างประเทศ รวมถึงกงสุลกิตติมศักดิ์ฝรั่งเศสที่เชียงใหม่ หัวหิน ขอนแก่นและภูเก็ต ตลอดจนผู้ดูแลสมาคมชาวฝรั่งเศส โดยทุกท่านยึดมั่นในเจตนารมณ์ในการส่งเสริมความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อันสะท้อนค่านิยมภราดรภาพในคำขวัญประจำชาติฝรั่งเศสของเรา ในโอกาสที่ปีนี้เป็นการรำลึกครบรอบ 20 ปี เหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 ผมจึงขออนุญาตยกย่องการประกอบคุณงามความดีของพี่น้องชาวฝรั่งเศสอีกท่านซึ่งให้เกียรติมาร่วมงานในวันนี้เช่นกัน นั่นคือ คุณเอลิซาเบ็ธ ซานา ประธานมูลนิธินัท ผู้ที่อุทิศตนช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสให้ได้รับการศึกษาที่โรงเรียนบ้านควนเกาะจันทร์ จังหวัดกระบี่
สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กิตตินันท์ ชินสำราญ นักร้องเสียงบาริโทน สำหรับการขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงชาติฝรั่งเศสในวันนี้ รวมทั้งขอขอบคุณวงดุริยางค์ทหารอากาศ พันธมิตรและผู้สนับสนุนทุกท่าน ที่กรุณาให้ความอนุเคราะห์ในการจัดงานครั้งนี้
ขอให้มิตรภาพระหว่างราชอาณาจักรไทยกับฝรั่งเศสยั่งยืนยาวนานตลอดไป
บัดนี้ ผมขอเรียนเชิญท่านผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมดื่มถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และดื่มเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส อย่างพร้อมเพรียงกัน
*****